ประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา   

        อาณาจักรกรุงศรีอยุธยาเป็นบ้านเกิดของประเทศไทย ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่าก่อตั้งในปี พ.ศ. 2436 ตั้งอยู่บนพื้นที่กระจุกตัวริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก มีกษัตริย์องค์แรกที่ทรงสร้างเมืองคือ กรมอู่ทอง หรือพระราชรามาธิบดีที่ 1

     กรุงศรีอยุธยาน่าจะเป็นเมืองเดิมมาก่อน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำป่าสัก บริเวณวัดพนันเชิง เนื่องจากวัดเก่าน่าจะสร้างก่อน พ.ศ. 2436 ประชาชนที่อพยพข้ามแม่น้ำป่าเพื่อ ทรงสร้างเมืองขึ้นใหม่ในหนองโสนหรือบริเวณพระรามและอยุธยาในปัจจุบัน    กรุงศรีอยุธยาเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ดำรงอยู่ได้ยาวนานถึง 417 ปี

โดยมีพระมหากษัตริย์ 33  พระบรมมหาราชวัง พระราชวัง ราชวงศ์สุโขทัย ปราสาททองบ้านพลูหลวงจากบริเวณใจกลางกรุงศรีอยุธยาถือเป็นเมืองการค้าที่สำคัญ  การเติบโตของชาติตะวันตกเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมระหว่างตะวันออกและตะวันตก เชื่อกันว่ามีหลายเชื้อชาติ หลายศาสนาอาศัยอยู่ในอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา 

  นอกจากนี้การค้าขายของอาณาจักรกรุงศรีอยุธยายังทำให้สงครามเข้มแข็งขึ้นอีกด้วย  อาณาเขตได้รับการขยายโดยเมืองต่างๆ รอบ ๆ เข็มทิศ และทำให้อาณาจักรหรือเมืองที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อน ลดบทบาทหรือขนาดลงเป็นคิงซิตี้ ว่ากันว่ากรุงศรีอยุธยาเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคนี้   และอย่างไรก็ตาม เมืองกรุงศรีอยุธยาสามารถเอาชนะสงครามครั้งใหญ่ได้และพ่ายแพ้ถึงสองครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อกษัตริย์แห่งราชวงศ์เตานูในประเทศพม่า รักกรุงประกาศให้กองทัพโลกทราบตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2111

สงครามกินเวลานานหลายเดือนจนกระทั่งเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2112 กรุงศรีอยุธยาแตก  เว็บพนันออนไลน์ ฝากขั้นต่ำ 50 บาท   อยู่ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวถึง 15 ปี และพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์กรุงศรีอยุธยาซึ่งทรงครองราชย์อยู่จนพระองค์สิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2524 สมเด็จพระนเรศวร (นั่นคือ อุปราชกรุงศรีอยุธยา)

จึงทรงเห็นว่าจะไม่อีกต่อไป เป็นเมือง ทรงกระทำเอกราชที่เมืองเลอ แม้หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2126 พม่าก็ยกทัพมายึดครองกรุงศรีอยุธยาหลายครั้งแต่ก็ล้มเหลวจนกระทั่ง พ.ศ. 2133 เมื่อกษัตริย์มรณะ ดังนั้นรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวร ทำให้อยุธยากลับมาอีกครั้ง

ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร มีหลายครั้งในอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาที่จะครองบัลลังก์ ราชวงศ์สุโขทัยได้แปรสภาพเป็นราชวงศ์ปราสาททองและบ้านพลูหลวงแต่ไม่เคยพ่ายแพ้ในสงครามครั้งใหญ่ เป็นอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองทั่วโลก กรุงเทพฯ ครั้งที่ 2   กษัตริย์องค์สุดท้ายที่ 33 ของกรุงศรีอยุธยาคือ พระเจ้ายัต หรือบัลลังก์ของอมรินทร์ซึ่งเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2301 ต่อมาในปี พ.ศ. 2308

เริ่มถูกรุกรานจากพม่าพอสมควรจนถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2310 หลังจากถูกล้อมอยู่เป็นเวลานาน ทหารพม่าได้รับการเลี้ยงดูจากธนาคาร เมืองนี้ถูกทำลายล้างอย่างหนัก และถือเป็นจุดจบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 417 ปี   ที่ถนนกรุงสายที่ 2 พระยาตากรวบรวมกำลังจากนอกเมืองโดยเฉพาะที่จันบูตราดและธนบุรี

ด้านหลังเมืองผมอยู่ในสภาพกองทัพพม่า ให้พระยาเลือกฐานที่มั่นเพื่อสร้างเมืองใหม่ พระมหากษัตริย์คือพระเจ้าตากสินหรือรัชกาลที่ 4 สถาปนากรุงธนบุรี    เมื่อพระเจ้าจากบาปมรณะพระยาจักรีได้สวมมงกุฎเป็นพระพุทธรูปของกษัตริย์แห่งโลกและสถาปนาขึ้นในกรุงเทพฯ พ.ศ. 2325 เป็นช่วงต้นสมัยกรุงรัตนโกสินทร์   

จากนั้นก็เข้าสู่สมัยรัตนโกสินทร์ กรุงศรีอยุธยาหรือเมืองเก่ามีสถานะรุ่งเรืองขึ้น ขึ้นครองราชย์ในรัชกาลที่ 4 พ.ศ. 2438 ซึ่งได้แก้ไขพระราชกฤษฎีกาใหม่จนกลายเป็นเทศมณฑลเทศาภิบาล ออกมาเป็น เมืองเก่า  กรุงศรีอยุธยา อ่างทอง สระบุรี พระพุทธบาท ลพบุรี พรหมบุรี ในบุรีและสิงห์บุรี   

ในยุคการเปลี่ยนแปลงในรัชสมัย พ.ศ. 2475 กรุงศรีอยุธยาถูกยุบ กรุงศรีอยุธยา กลายเป็นจังหวัดกรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันมี 16 อำเภอที่อยู่ในช่วงกลางเศรษฐกิจ ในขณะที่ย่านเมืองเก่าหรือที่ตั้งใจกลางอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ตั้งแต่ปี 2534