มีรายงานข่าวออกทางทีวีช่อง 3 ถึงเกี่ยวกับผู้ปกครองคนหนึ่งในจังหวัดระนอง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยระบุว่าลูกสาวของตนเองอายุเพียง 11 ขวบและเป็นโรคสมาธิสั้นถูกชายแปลกหน้าขับรถกระบะสีดำหลอกให้ขึ้นรถแล้วพาไปกระทำอนาจาร โดยแม่ของเด็กเล่าว่าลูกสาวแอบออกมาเล่นกับเพื่อนนอกบ้านโดยไม่ได้บอกแม่
ซึ่งเด็กๆพากันเดินมาเล่นที่ที่สระว่ายน้ำของหมู่บ้านพบว่ามีชายขับรถกระบะคันสีดำ เข้ามาจอดแล้วชวนเด็กๆขึ้นรถโดยสัญญาว่าจะให้เงิน 50 บาท ซึ่งมีเด็กขึ้นรถไปสองคนคือลูกสาวของตนเองกับเด็กหญิงอายุ 7 ขวบ แต่เด็กหญิงอายุ 7 ขวบเปลี่ยนใจลงจากรถเสียก่อนจึงเหลือเด็ก 11 ขวบคนเดียว
เมื่อเด็กขึ้นรถชายคนดังกล่าวได้ขับรถมาที่ซอยของหมู่บ้านระนองวินเลจ ซึ่งซอยดังกล่าวเป็นซอยเปลี่ยวแล้วลงมือกระทำอนาจารเด็ก จนเด็กกลัวร้องไห้เสียงดัง ชายคนดังกล่าวจึงปล่อยเด็กลงจากรถพร้อมให้เงิน 50 บาทแล้วขับรถหนีไป ซึ่งขณะนี้ทางแม่ของเด็กได้พาเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแล้ว มีรายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้เด็กยังอยู่ในอาการขวัญผวา หวาดกลัวคนแปลกหน้าและกอดแม่ร้องไห้ตลอดเวลา ซึ่งใครที่ได้เห็นภาพนี้ต่างก็พากันสงสารเด็กกันทุกคน
จากรายงานของข่าวตอนนี้ยังไม่สามารถจับได้ว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นใคร ซึ่งข้อสันนิฐานอาจจะเป็นคนในหมู่บ้านหรือคนนอกหมู่บ้านก็ได้ ตำรวจควรจะต้องรีบตามจับตัวมาลงโทษให้เร็วที่สุดเพราะขณะนี้ทางผู้ปกครองและเด็กคนอื่นๆในหมู่บ้านดังกล่าวคงอยู่กันแบบขวัญผวา คงไม่มีใครกล้าปล่อยให้เด็กออกมาเล่นกันเองอีก อันทีจริงในหมู่บ้านถือว่าน่าจะเป็นที่ที่ปลอดภัยในระดับหนึ่ง
แต่ในฐานะที่เป็นผู้ปกครองทุกคนไม่ควรปล่อยให้เด็กออกมาเล่นกันกับเพื่อนตามลำพัง ถึงแม้ว่าจะอยู่ใกล้ๆกับบ้านก็ตาม ผู้ปกครองควรตามมาดูแลด้วยทุกครั้งเพราะเด็กอายุ 7 ขวบหรือ 11 ขวบยังถือได้ว่ายังรับผิดชอบดูแลตัวเองยังไม่ดีเท่าที่ควร เผื่อว่ามาเล่นน้ำแล้วตกน้ำไปจะไม่มีคนช่วยได้ทัน หรืออาจต้องระวังเรื่องรถในหมู่บ้านที่เด็กอาจเดินตัดหน้าเพื่อมัวแต่หยอกล้อเล่นกัน
ดังนั้นเราจึงไม่ค่อยปล่อยเด็กให้เล่นอยู่ด้วยกันเองเพียงลำพัง เหตุการณ์ครั้งนี้คงเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ปกครองหลายๆคนที่ควรหมั่นใส่ใจเด็กให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นหากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจะมานั่งเสียใจทีหลังก็สายเกินไป