การปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาล การเลือกตั้ง2กุภาพันธุ์2557ที่ถูกทำให้เป็นโมฆะรวมไปถึงคำปฏิเสธการผู้นำของกองทัพก่อนการรัฐประหารเพียงแค่ไม่กี่วันว่าพวกเขาจะมายึดอำนาจดูเป็นเส้นทางที่คล้ายคลึงกับเมียนมาและไทย
ทหารไม่เข้าไปยุ่งกับการเมืองและไม่ได้อยู่เบื้องหลังการดำเนินการใดๆทางการเมืองซึ่งควรยุติการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทหารจะปฏิวัติรัฐประหารเพราะไม่ใช่เวลาที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์กัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บริหารทหารสูงสุดในขณะนั้นออกมาประกาส
เมื่อวันที่11พฤษภาคม2557 สยงเสียงร่ำลือว่าทหารจะทำการรัฐประหารล้มรัฐบาลรักษาการของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่วนกองทัพเมียนมาออกแถลงการสยงข่าวลือการก่อรัฐประหารที่หนาหูมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วโดยยืนยันว่าจะมุ่งมั่นปกป้องรัฐธรรมนูญและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
เพียง2วันก่อนยึดอำนาจในวันที่1กุมภาพันธ์โดยกลุ่มดังกล่าวโดยประชาชนผู้สนับสนุนกลุ่มพรรคUSDPส่งทหารหลายร้อยคนชุมนุมประท้วง กกต. ที่กรุงเนปิดอว์และกรุงย่างกุ้ง เหมือนหรือต่างกันเช่นไรผู้ช่วยศาสตร์ตราจารย์ลลิตาบอกว่าลำดดับเงื่อนไขนี้เข้าทฤษฎีหรือตำรารัฐศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องทรราช
แต่เห็นว่านี่มันไม่ใช่รูปแบบที่ทางกองทัพจะกระทำอย่างเดียวแต่ทรราชที่เป็นพลเรือนก็ใช้แนวทางนี้เช่นกันได้แก่การอ้างฐานเสียงสนับสนุนในกรก่อรัฐประหารแต่ในโลกของความเป็นจริงในพม่าคนที่สนับสนุนทหารอาจจะมีไม่เยอะในไทยอาจจะมากกว่าพม่า
เพราะว่าคนในพม่าส่วนใหญ่ใช้ความว่าเกลียดกองทัพเลยแต่ในกรณีของไทยประชาชนฝ่ายสนับสนุนก็ยังคิดว่าทางกองทัพยังดีอยู่ รัฐประหารที่ไม่ได้ฉีกรัฐธรรมนูญการแถลงการของการยึดอำนาจของกองทัพเมียนมาเมื่อวันที่1กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาไม่มีการระงับการใช้รัฐธรรมนูญปี2551
ซึ่งมันเป็นแตกต่างของการรัฐประหารในประเทศไทยที่ส่วนใหญ่มีการยกเลิกกรัฐธรรมนูญประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวและตั้งคณะบุคคลเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เมื่อได้มีการฉีกรัฐธรรมนูญเลยจะยิ่งย้ำเตือนสถานะพิเศษของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วยซ้ำไป
ในประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินผ่านทีวีของกองทัพเมื่อวันที่1กุมภาพันธ์ระบุว่าการประกาศสภาวะฉุกเฉินในประเทศเป็นไปตามกฎบัญญัติมาตราที่417ของรัฐธรรมนูญปี2551และเพื่อมีการตรวจสอบผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งอำนาจการออกกฎหมายและการพิพากษาทั้งทวงจะถูกมอบให้เป็นอำนาจของผู้บบัญชาการทหารบก
โดยเป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา418 วัคAของรัฐธรรมนูญปี2551 ผู้ช่วยศาสตร์ตราจารย์ลลิตา ได้บอกว่าการอ้างอิงในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญดังกล่าว ซึ่งเป็นบทใหญ่ที่พูดถึงกองทัพที่สามารถเข้ามาแซกแซงหรือทำรัฐประหารได้เมื่อเกิดสถานการณ์บางอย่างที่ทำให้เชื่อได้ว่ามีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศนั่นจึงมีการวิเคราะห์จากสื่อว่าการปฏิวัติรัฐประหารครั้งนี้มีความชอบธรรมเป็นไปตามมรัฐธรรมนูญอย่างไร
สนับสนุนเรื่องราวโดย. ufabet บนมือถือ