จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดหนึ่งในเขตของภาคอีสานที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว พญาคันคากผู้พิชิตพญาแถน เพราะจังหวัดนี้นอกจากจะเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับฝั่งลาวแล้วยังเป็นจังหวัดที่มีอายุเก่าแก่มาหลายพันปีนอกจากนี้จังหวัดยโสธรนั้นยังเป็นจังหวัดอีกจังหวัดหนึ่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังของไทยอีกด้วย
เนื่องจากว่าในช่วงเดือนพฤษภาคมจะมีเทศกาลที่เป็นเทศกาลที่จะต้องจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีและสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดในแต่ละครั้งที่มีการจัดงานนั้นก็มักจะมีผู้คนหลั่งไหลเดินทางมาทั้งจากต่างจังหวัดรวมถึงต่างประเทศไปเที่ยวเทศกาลนี้ซึ่งเทศกาลดังกล่าวนั้นก็คือเทศกาลงานบั้งไฟยโสธรนั่นเอง
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากใครได้เคยมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมงานเทศกาลบั้งไฟยโสธรหรืออาจจะเคยไปเที่ยวที่จังหวัดยโสธรย่อมจะรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดยโสธรเป็นอย่างดีนอกจากนี้เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับบั้งไฟยโสธรกันมาบ้างแล้วซึ่งตำนานนี้มีการพูดถึงกันอย่างแพร่หลายมาจนถึงทุกวันนี้นอกจากนี้ยังมีหลักฐานอ้างอิงในพิพิธภัณฑ์ที่มีการสร้างไว้ในจังหวัดยโสธรอีกด้วย
สำหรับตำนานที่เราจะมาพูดถึงกันในครั้งนี้ก็คือตำนานของพญาคันคากซึ่งคำว่า คันคาก นั้นเป็นภาษาอีสานในภาษากลางนั้นหมายถึงคางคกซึ่งมีตำนานเกี่ยวกับเรื่องของพญาคันคากและประเพณีบุญบั้งไฟรวมไว้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์พญาคันคากสวนสาธารณะพญาแถนอำเภอเมืองของจังหวัดยโสธรริมอ่างเก็บน้ำลำทวนตามเรื่องเล่าพื้นบ้านของชาวอีสานเล่าถึงเทพเจ้าแห่งฝนหรือพญาแถนที่โกรธเคืองโลกมนุษย์มากจึงแกล้งไม่ให้ฝนตกนานถึง 7 เดือนทำให้มนุษย์และสัตว์จำนวนมากล้มตาย
ต่อมาจากธุระชีวิตจึงคิดหาทางปราบพญาแถนเริ่มจากส่งพญานาคียกทัพไปรบแต่ก็แพ้กลับมาจึงส่งพญาต่อแตนยกทัพไปปราบแล้วก็แพ้อีกจากนั้นพญาคันคากหรือพญาคางคกอาจจะรบกับพญาแถนโดยวางแผนให้ปลวกก่อจอมปลวกสร้างเส้นทางขึ้นไปยังเมืองพญาแถนสั่งให้มอดกัดเจาะด้านอาวุธที่ทำด้วยไม้ทุกชนิด
นอกจากนี้ยังมีการสั่งสัตว์มีพิษอย่าง แมลงป่องและตะขาบ ให้มารวมตัวกันเพื่อกัดต่อยไพร่พลพญาแถนในที่สุดพญาแถนจึงยอมแพ้และทำสัญญาสงบศึก 3 ข้อคือ 1 ถ้ามนุษย์จุดบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อใดให้พญาแถนสั่งให้ฝนตกในโลกมนุษย์ 2 ถ้าได้ยินเสียงกบเขียดร้องให้รับรู้ว่าฝนได้ตกลงมาแล้วและ 3 ถ้าได้ยินเสียงเสนอหรือเสียงถวายของว่าวหรือเสียงโหวตให้ฝนหยุดตกก็จะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าว
สนับสนุนโดย. ufabet เว็บหลัก