ประวัติวันแม่

              เราต่างก็รู้ดีกันว่าวันแม่ของทุกปีนั้นตรงกับวันที่ 12 สิงหาคมแต่คุณรู้หรือไม่ว่าก่อนที่จะมีวันแม่วันที่ 12 สิงหาคมนั้นแต่เดิมนั้นวันแม่ถูกกำหนดเอาไว้เป็นวันอะไร วันแม่นั้นเป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถซึ่งพระองค์เป็นพระมเหสีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งพระองค์เกิดวันที่ 12 สิงหาคม

ซึ่งแต่เดิมนั้นวันแม่นั้นเป็นวันที่ 15 เมษายนก่อนที่ภายหลังจะมีการเปลี่ยนมาเป็นวันที่ 12 เมษายนในวันที่ 23 เดือนกุมภาพันธ์ปีพุทธศักราช 2493 เนื่องจากต้องมีการปรับเปลี่ยนตามวันเกิดของแม่หลวงของปวงชนชาวไทย การจัดให้มีวันแม่นั้นเนื่องจากว่าแม่มีความสำคัญกับทุกคนดังนั้นเพื่อเป็นการเทิดทูนและให้ทุกคนเห็นความสำคัญของผู้เป็นแม่จึงได้มีการจัดวันแม่ขึ้นมาซึ่ง จัดพิธีกรรมหรือกิจกรรมเกี่ยวกับวันแม่นั้นเกิดขึ้นมาในสมัยของจอมพลปพิบูลสงคราม   โดยในวันแม่นั้นทัวร์ต่างประเทศจะมีการประดับธงชาติไว้ที่บ้านเรือนของตนเองและแต่ละจังหวัดก็จะมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับวันแม่

หรือจัดนิทรรศการรวมถึงการที่เด็กๆมักจะนำพวงมาลัยไปกราบแม่เพื่อขอบคุณที่แม่ได้มีการเลี้ยงดูและอบรมตนเองมาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ซึ่งการจัดกิจกรรมวันแม่นั้นมักจะมีการจัดกิจกรรมกันที่โรงเรียนอีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมการทำบำเพ็ญประโยชน์รวมถึงที่วัดก็จะมีการเปิดให้ประชาชนเดินทางไปทำบุญตักบาตรเพลงจากว่าบางคนอาจจะสูญเสียแม่ไปแล้วดังนั้นการระลึกถึงแม่สำหรับผู้ที่สูญเสียแม่ไปนั้นจะทำได้ด้วย

การไปทำบุญใส่บาตรเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับแม่ที่ล่วงลับไปแล้วดอกไม้ที่แทนสัญลักษณ์ของวันแม่นั้นก็คือดอกมะลิซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่เด็กๆมักจะนำพวงมาลัยที่ร้อยดอกมะลิไปกราบไหว้แม่อีกทั้งยังมีเพลงวันแม่ซึ่งมีการแต่งเอาไว้เช่นเพลงค่าน้ำนมซึ่งถือได้ว่าเป็นเพลงประจำวันแม่ที่เมื่อถึงช่วงที่มีการจัดกิจกรรมวันแม่เมื่อไหร่ก็จะต้องมีการเปิดเพลงนี้ทุกปี 

            ในอดีตนั้นกิจกรรมวันแม่จะมีการจัดขึ้นทุกปีโดยทางโรงเรียนจะมีการเชิญแม่ของเด็กๆไปร่วมกิจกรรมเพื่อให้เด็กๆได้มีการกราบไหว้แม่แต่ระยะเวลาช่วงหลังๆมานี้ทางโรงเรียนส่วนใหญ่มักจะงดกิจกรรมไม่ได้เชิญผู้ปกครองไปจัดงานวันแม่ที่โรงเรียนเนื่องจากว่าหลายครั้งที่เมื่อมีการจัดการไหว้แม่เกิดขึ้นจะมีเด็กบางกลุ่มที่แม่ไม่สามารถหยุดงานแล้วไปร่วมงานที่โรงเรียนได้หรือบางคนที่แม่ของเขาเสียชีวิตแล้วไม่สามารถมาร่วมงานได้เช่นเดียวกันจะทำให้เด็กเหล่านั้นเกิดความรู้สึกอิจฉาและน้อยเนื้อต่ำใจที่แม่ไม่ได้มาร่วมงานดังนั้นเพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกมีปมด้อยโรงเรียนส่วนใหญ่จึงมักงดกิจกรรมการไหว้แม่ที่โรงเรียนและให้เด็กมาไหว้แม่ที่บ้านแทน

               

สนับสนุนโดย ทางเข้า UFABET ภาษาไทย