ในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ภาพหญิงสาวคนหนึ่งเป็นแม่ค้าขายส้มตำอยู่ที่ตำบลพระแท่นจังหวัดกาญจนบุรีโดยได้เพราะว่าแม่ค้าอายุ 35 ปีเท่านั้นมีอาการตุ่มขึ้นตามร่างกายเป็นแผลพุพองตั้งแต่หัวไปจนถึงเท้านอกจากนี้แท้ดังกล่าวยังแตกน้ำเหลืองไหลเยิ้มทำให้ได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามผู้ป่วยคนดังกล่าวระบุว่าตนเองชื่อนางเพ็ญนภา โดยเล่าว่าก่อนหน้านี้ร่างกายสมบูรณ์สุขภาพแข็งแรง อย่างไรก็ตามอาการเจ็บไข้ได้ป่วยที่เป็นแผลพุพองนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ไปทำการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ยี่ห้อ Johnson & Johnson โดยนางเพ็ญนภาระบุว่าเมื่อช่วงประมาณเดือนมกราคมเพื่อนบ้านของเธอมาบอกว่ามีหน่วยงานของรัฐมาเกณฑ์ ชาวบ้านให้ไปฉีดวัคซีนโดยจะมีการจ้างการฉีดวัคซีนเข็มละ 1000 บาทซึ่งจะมีการฉีดทั้งหมด 7 เข็มด้วยกัน
อย่างไรก็ตามนางเพ็ญนภาพึ่งไปทำการฉีดเข็มที่ 3 มาเท่านั้นหลังจากกลับมาจากฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีแล้วปรากฏว่าเริ่มมีตุ่มขึ้นตามร่างกายและผ่องซึ่งในตอนแรกนั้นนางเพ็ญนภาคิดว่าตนเองแพ้เหงื่อจึงไปหาซื้อยามากินแต่อาการก็ไม่ดีขึ้นแถมตุ่มยังขึ้นตามร่างกายลุกลามไปทั่ว
สาวโพสต์ป่วยทรมานแผลพุพอง ปัจจุบันนี้รักษาการอยู่ที่โรงพยาบาลมะการักษ์ซึ่งเริ่มรักษาอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 1 เดือนเมษายนปีพศ 2560 5 และต้องล้างแผลทุกวันโดย ใช้น้ำเกลือล้างแผล
ซึ่งส่งผลทำให้มีผลกระทบเรื่องของค่าใช้จ่ายเพราะไม่สามารถที่จะเปิดร้านขายส้มตำได้และค่าน้ำเกลือในการล้างแผลก็แพงจึงได้มีการโพสต์ขอความช่วยเหลือให้คนใจดีในโลกออนไลน์ช่วยกันบริจาคน้ำเกลือและสำลีสำหรับล้างแผลให้รวมถึงฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยมาพาไปรักษาอาการเจ็บป่วยเพราะยาจะหายเนื่องจากว่าทุกข์ทรมานมาก
อย่างไรก็ตามนางเพ็ญนภาระบุว่าในขณะนี้สามีของนางเพ็ญนภาเป็นหัวเรือหลักในการหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวซึ่งจะต้องดูแลคนอื่นๆเช่นแม่ที่ป่วยและยังมีลูกอีก 3 คนรวมถึงตัวของนางเพ็ญนภาเองทำให้เธอนั้นรู้สึกสงสารสามีของเธอเป็นอย่างมาก สำหรับเรื่องนี้หลังจากที่มีการเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ปรากฏว่า นายแพทย์สาธารณสุขประจำจังหวัดกาญจนบุรีได้เข้ามาช่วยเหลือพาไปรักษาอาการและมีการตรวจสอบผื่นซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีการแพ้วัคซีนยี่ห้อ Johnson & Johnson หรือไม่หรือว่าเกิดจากโรคประจำตัวเพราะจากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่านางเพ็ญนภานั้นเคยมีโรคประจำตัวซึ่งเป็นโรคเกี่ยวกับผิวหนังด้วย
ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการรอผลตรวจว่าแพ้วัคซีนหรือเป็นการที่ฉีดวัคซีนเข้าไปแล้วตัวยาไปกระตุ้นโรคเก่าให้กำเริบ ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่านางเพ็ญนภาไม่ได้มีการรับจ้างฉีดวัคซีนแต่เข้าร่วมโครงการ วิจัยวัคซีน
ได้รับการสนับสนุนโดย ดูบอลสด